พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง
พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง วัดใหม่อมตรส รุ่นปี 09, 17, 31, 39, อุดมมงคล43 และ อมตมหามงคล54
วัดใหม่อมตรส หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดบางขุนพรหม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงธนบุรี ประมาณปี พ.ศ.2321 และในปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสมียนตราด้วง ต้นสกุล ธนโกเศศ ได้มีจิตศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหมอมตรส และได้สร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นภายในวัดด้วย และภายในเจดีย์จะบรรจุพระพิมพ์ตามโบราณคติของการสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นมหากุศล สืบทอดพระศาสนาต่อไป เสมียนตราด้วงจึงได้เข้าไปกราบขออนุญาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งเป็นพระเถระซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมาก เพื่อทำการสร้างพระพิมพ์ บรรจุในพระเจดีย์ วัดใหม่อมตรส
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ทรงประทานอนุญาติ และได้มอบผงพุทธคุณของท่าน ที่ท่านใช้ในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เพื่อนำไปเป็นมวลสารหลักในการสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหม และท่านก็ได้มาทำการปลุกเสก พระสมเด็จบางขุนพรหม ชุดนี้ด้วย จากนั้นจึงนำพระทั้งหมดบรรจุยังพระเจดีย์
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการลักลอบนำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ออกมาจากเจดีย์อยู่เป็นประจำ แม้ทางวัดจะพยายามป้องกันอย่างไรก็ตาม จนกระทั่งปี พ.ศ.2500 ทางวัดพบว่ามีการลักลอบขุดเจาะเจดีย์เป็นช่องใหญ่ ลักลอบนำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ออกไปเป็นจำนวนมาก เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรสสมัยนั้น คือ พระครูอมรคณาจารย์ (เส็ง) จึงประกาศเปิดกรุอย่างเป็นทางการ โดยได้นำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ยังอยู่ในสภาพดีออกมาได้ 2,950 องค์ นอกนั้นเป็นพระชำรุดแตกหัก และดินกรุที่จับกันกับเศษพระที่แตกหักเป็นก้อน ๆ รวมทั้งพระอีกจำนวนมากที่เกาะติดกันเป็นก้อน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
พุทธคุณอันเข้มขลัง จนเป็นที่นิยม เสาะแสวงหากันอย่างมากของ พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นที่มาของการสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง จากวัดใหม่อมตรส ต่อมาอีกหลายรุ่น โดยทุกรุ่นจะมีการนำผงเก่าจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่แตกหัก ชำรุดเสียหาย จากการเปิดกรุ มาเป็นมวลสารหลักในการจัดสร้าง ทำให้ พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ได้รับความนิยม แสวงหา จากนักสะสม และก็มีค่านิยมมากขึ้นตามลำดับ
พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง สร้างขึ้นครั้งแรกเมือ่ปี 2509 โดยทางวัดใหม่อมตรสสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมา จากปัจจัยที่ได้จากการเปิดให้บูชา พระสมเด็จบางขุนพรหม เมื่อครั้งเปิดกรุ ปี 2500 รวมกับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ทางวัดจึงได้สร้าง พระสมเด็จเนื้อผงขึ้นมาใหม่ เพื่อสมนาคุณให้กับผู้บริจาคทรัพย์ และ บรรจุกรุกลับคืนไปในพระเจดีย์องค์ใหม่ โดยพระสมเด็จเนื้อผงชุดนี้ เป็น พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ที่นิยมเรียกกันว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 09
พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ผู้ทำบุญบริจาคทรัพย์บูชากลับบ้าน จำนวน 84,000 องค์ อีกส่วนหนึ่งเป็นพระที่นำไปบรรจุกรุในเจดีย์องค์ใหม่ จำนวน 84,000 องค์ (ซึ่งพระจำนวนนี้ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ภายในพระเจดีย์ วัดใหม่อมตรส)
มวลสารหลักของ พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 คือ ชิ้นส่วนของ พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ชำรุดแตกหัก และ ดินกรุ ที่ได้จากการเปิดกรุเมื่อปี 2500 รวมกับผงพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศในยุคนั้น และผงพระกรุวัดสามปลื้ม พระกรุวัดคู้สลอด ผงพระวัดปากน้ำรุ่นแรก โดยมีผงปูนขาว ปูนเปลือกหอย เกสรดอกบัวหลวง ดอกพิกุล มาผสม และใช้น้ำผึ้งกับน้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสานให้เนื้อผงต่าง ๆ ที่ผสมกันนั้นเหนียวแน่นเกาะเป็นเนื้อเดียวกัน
พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 มีพิมพ์ต่าง ๆ 12 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์จันทร์ลอย และพิมพ์คะแนน
โดยมีพระเกจิคณาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก จำนวน 9 รูป คือ
หลวงปู่นาค วัดระฆัง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อทิม วัดช้างให้, พระครูสมุห์อำพล วัดปราสาท, พระอาจารย์สาธิต วัดวชิรธรรมสาธิต, พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย, ท่านเจ้าคุณวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
วัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ.2517 โดยเรียกว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ปีที่ 101 ปี แห่งการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และยังได้นำเงินรายได้จากการให้เช่าบูชา พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 นี้ไปสมทบทุนจัดสร้างโรงเรียนเทศบาลวัดใหม่อมตรส.
โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นต้น
พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 นี้เป็นพระเนื้อผงที่เนื้อพระค่อนข้างละเอียด กดพิมพ์ด้วยเครื่อง พิมพ์พระจึงเรียบร้อยสวยงาม ความหนาขององค์พระมีขนาดมาตรฐานใกล้เคียงกัน ขอบข้างมีทั้งแบบขอบเรียบและขอบมีรอยครูดตัด ส่วนด้านหลังมีทั้งแบบหลังเรียบและแบบลายผ้า โดยช่างผู้แกะบล๊อกแม่พิมพ์ คือ นายช่างเกษม มงคลเจริญ
พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 มี 13 พิมพ์หลัก คือ พิมพ์ใหญ๋ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์คะแนน พิมพ์จันทร์ลอย และพิมพ์รูปเหมือน โดยพิมพ์ที่เป็นที่นิยมสูงสำหรับ พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 คือ พิมพ์ใหญ่ 5 จุด และ พิมพ์ใหญ่ 3 จุด
ในปี พ.ศ.2531 ทางวัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ขึ้นอีกรุ่น คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระราชพิธีมหารัชมังคลาภิเษก
สำหรับพระเนื้อผงของ พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 มีส่วนผสมจากมวลสารหลัก คือ ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุเมื่อปี 2500 และผงจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 พระสมเด็จบางขุนพรหม 17
และพระคณาจารย์ที่มานั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ ท่านเจ้าคุณประหยัด วัดสุทัศน์ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช เป็นต้น
พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง รุ่นต่อมาที่ทางวัดจัดสร้าง คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 39 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างคือ หาทุนทรัพย์สร้างเสนาสนะ และปรับปรุงฌาปนสถานของทางวัด เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่ราชการกำหนด
โดยมีมวลสารหลักที่นำมาจัดสร้าง ได้แก่ มวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่เปิดกรุเมื่อปี 2500 และมวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 พระสมเด็จหลวงตาพัน และพระสมเด็จหลวงปู่ลำภู
พระคณาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อดี วัดพระรูป หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า เป็นต้น โดยก่อนพิธีพุุทธาภิเษก ได้นำถวาย หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นปฐมฤกษ์
ในปี พ.ศ.2543 วัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอุดมมงคล ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1. เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์
2. เพื่อสมทบทุนนิธิสงเคราะห์นักเรียน นักศึกษา
3. เพื่อสมทบทุนนิธิสงเคราะห์ของพระภิกษุ สามเณร
4. เพื่อสมทบทุนนิธิฌาปนสถานสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย
มวลสานหลักที่นำมาผสม เพื่อจัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอุดมมงคล ได้แก่ ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุ เมื่อปี 2500 ผงจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม09 พระสมเด็จบางขุนพรหม17 พระสมเด็จบางขุนพรหม31 พระหลวงตาพัน และพระหลวงปู่ลำภู
พระคณาจารย์ที่มาประกอบพิธีพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น
ในปี พ.ศ.2554 ทางวัดได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอมตมหามงคล ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคสมทบทุน บูรณะปฏิสังขรณ์ เสนาสนะภายในวัดใหม่อมตรส
เพื่อสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และเป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุ สามเณร นักเรียน นักศึกษา
โดยมวลสารที่นำมาเป็นหลักในการจัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอมตมหามงคล คือ มวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุ เมื่อ ปี 2500 และมวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ทุกรุ่นของวัด เช่น พระสมเด็จบางขุนพรหม09 พระสมเด็จบางขุนพรหม17 พระสมเด็จบางขุนพรหม31 หลวงตาพัน และหลวงพ่อลำภู
พระคณาจารย์ที่มานั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันฑ์ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม เป็นต้น
วัดใหม่อมตรส หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดบางขุนพรหม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง สร้างมาตั้งแต่สมัยปลายกรุงธนบุรี ประมาณปี พ.ศ.2321 และในปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสมียนตราด้วง ต้นสกุล ธนโกเศศ ได้มีจิตศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหมอมตรส และได้สร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้นภายในวัดด้วย และภายในเจดีย์จะบรรจุพระพิมพ์ตามโบราณคติของการสร้างเจดีย์ เพื่อเป็นมหากุศล สืบทอดพระศาสนาต่อไป เสมียนตราด้วงจึงได้เข้าไปกราบขออนุญาติ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ซึ่งเป็นพระเถระซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมาก เพื่อทำการสร้างพระพิมพ์ บรรจุในพระเจดีย์ วัดใหม่อมตรส
สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ทรงประทานอนุญาติ และได้มอบผงพุทธคุณของท่าน ที่ท่านใช้ในการสร้างพระสมเด็จวัดระฆัง เพื่อนำไปเป็นมวลสารหลักในการสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหม และท่านก็ได้มาทำการปลุกเสก พระสมเด็จบางขุนพรหม ชุดนี้ด้วย จากนั้นจึงนำพระทั้งหมดบรรจุยังพระเจดีย์
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการลักลอบนำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ออกมาจากเจดีย์อยู่เป็นประจำ แม้ทางวัดจะพยายามป้องกันอย่างไรก็ตาม จนกระทั่งปี พ.ศ.2500 ทางวัดพบว่ามีการลักลอบขุดเจาะเจดีย์เป็นช่องใหญ่ ลักลอบนำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ออกไปเป็นจำนวนมาก เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรสสมัยนั้น คือ พระครูอมรคณาจารย์ (เส็ง) จึงประกาศเปิดกรุอย่างเป็นทางการ โดยได้นำ พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ยังอยู่ในสภาพดีออกมาได้ 2,950 องค์ นอกนั้นเป็นพระชำรุดแตกหัก และดินกรุที่จับกันกับเศษพระที่แตกหักเป็นก้อน ๆ รวมทั้งพระอีกจำนวนมากที่เกาะติดกันเป็นก้อน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้
พุทธคุณอันเข้มขลัง จนเป็นที่นิยม เสาะแสวงหากันอย่างมากของ พระสมเด็จบางขุนพรหม เป็นที่มาของการสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง จากวัดใหม่อมตรส ต่อมาอีกหลายรุ่น โดยทุกรุ่นจะมีการนำผงเก่าจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่แตกหัก ชำรุดเสียหาย จากการเปิดกรุ มาเป็นมวลสารหลักในการจัดสร้าง ทำให้ พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ได้รับความนิยม แสวงหา จากนักสะสม และก็มีค่านิยมมากขึ้นตามลำดับ
พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง สร้างขึ้นครั้งแรกเมือ่ปี 2509 โดยทางวัดใหม่อมตรสสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมา จากปัจจัยที่ได้จากการเปิดให้บูชา พระสมเด็จบางขุนพรหม เมื่อครั้งเปิดกรุ ปี 2500 รวมกับเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา ทางวัดจึงได้สร้าง พระสมเด็จเนื้อผงขึ้นมาใหม่ เพื่อสมนาคุณให้กับผู้บริจาคทรัพย์ และ บรรจุกรุกลับคืนไปในพระเจดีย์องค์ใหม่ โดยพระสมเด็จเนื้อผงชุดนี้ เป็น พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ที่นิยมเรียกกันว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 09
พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 นี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งให้ผู้ทำบุญบริจาคทรัพย์บูชากลับบ้าน จำนวน 84,000 องค์ อีกส่วนหนึ่งเป็นพระที่นำไปบรรจุกรุในเจดีย์องค์ใหม่ จำนวน 84,000 องค์ (ซึ่งพระจำนวนนี้ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ภายในพระเจดีย์ วัดใหม่อมตรส)
มวลสารหลักของ พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 คือ ชิ้นส่วนของ พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ชำรุดแตกหัก และ ดินกรุ ที่ได้จากการเปิดกรุเมื่อปี 2500 รวมกับผงพุทธคุณของพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศในยุคนั้น และผงพระกรุวัดสามปลื้ม พระกรุวัดคู้สลอด ผงพระวัดปากน้ำรุ่นแรก โดยมีผงปูนขาว ปูนเปลือกหอย เกสรดอกบัวหลวง ดอกพิกุล มาผสม และใช้น้ำผึ้งกับน้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสานให้เนื้อผงต่าง ๆ ที่ผสมกันนั้นเหนียวแน่นเกาะเป็นเนื้อเดียวกัน
พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 มีพิมพ์ต่าง ๆ 12 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์จันทร์ลอย และพิมพ์คะแนน
โดยมีพระเกจิคณาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก จำนวน 9 รูป คือ
หลวงปู่นาค วัดระฆัง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อทิม วัดช้างให้, พระครูสมุห์อำพล วัดปราสาท, พระอาจารย์สาธิต วัดวชิรธรรมสาธิต, พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย, ท่านเจ้าคุณวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
วัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ.2517 โดยเรียกว่า พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 มีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ปีที่ 101 ปี แห่งการมรณภาพของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และยังได้นำเงินรายได้จากการให้เช่าบูชา พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 นี้ไปสมทบทุนจัดสร้างโรงเรียนเทศบาลวัดใหม่อมตรส.
โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เป็นต้น
พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 นี้เป็นพระเนื้อผงที่เนื้อพระค่อนข้างละเอียด กดพิมพ์ด้วยเครื่อง พิมพ์พระจึงเรียบร้อยสวยงาม ความหนาขององค์พระมีขนาดมาตรฐานใกล้เคียงกัน ขอบข้างมีทั้งแบบขอบเรียบและขอบมีรอยครูดตัด ส่วนด้านหลังมีทั้งแบบหลังเรียบและแบบลายผ้า โดยช่างผู้แกะบล๊อกแม่พิมพ์ คือ นายช่างเกษม มงคลเจริญ
พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 มี 13 พิมพ์หลัก คือ พิมพ์ใหญ๋ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ฐานแซม พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์ไสยาสน์ พิมพ์คะแนน พิมพ์จันทร์ลอย และพิมพ์รูปเหมือน โดยพิมพ์ที่เป็นที่นิยมสูงสำหรับ พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 คือ พิมพ์ใหญ่ 5 จุด และ พิมพ์ใหญ่ 3 จุด
ในปี พ.ศ.2531 ทางวัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ขึ้นอีกรุ่น คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระราชพิธีมหารัชมังคลาภิเษก
สำหรับพระเนื้อผงของ พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 มีส่วนผสมจากมวลสารหลัก คือ ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุเมื่อปี 2500 และผงจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 พระสมเด็จบางขุนพรหม 17
และพระคณาจารย์ที่มานั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธินิมิต หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ ท่านเจ้าคุณประหยัด วัดสุทัศน์ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพะอง พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช เป็นต้น
พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง รุ่นต่อมาที่ทางวัดจัดสร้าง คือ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 39 โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างคือ หาทุนทรัพย์สร้างเสนาสนะ และปรับปรุงฌาปนสถานของทางวัด เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่ราชการกำหนด
โดยมีมวลสารหลักที่นำมาจัดสร้าง ได้แก่ มวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่เปิดกรุเมื่อปี 2500 และมวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม 09 พระสมเด็จบางขุนพรหม 17 พระสมเด็จบางขุนพรหม 31 พระสมเด็จหลวงตาพัน และพระสมเด็จหลวงปู่ลำภู
พระคณาจารย์นั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อดี วัดพระรูป หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า เป็นต้น โดยก่อนพิธีพุุทธาภิเษก ได้นำถวาย หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ปลุกเสกเดี่ยวให้เป็นปฐมฤกษ์
ในปี พ.ศ.2543 วัดใหม่อมตรส ได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอุดมมงคล ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1. เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์
2. เพื่อสมทบทุนนิธิสงเคราะห์นักเรียน นักศึกษา
3. เพื่อสมทบทุนนิธิสงเคราะห์ของพระภิกษุ สามเณร
4. เพื่อสมทบทุนนิธิฌาปนสถานสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย
มวลสานหลักที่นำมาผสม เพื่อจัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอุดมมงคล ได้แก่ ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุ เมื่อปี 2500 ผงจาก พระสมเด็จบางขุนพรหม09 พระสมเด็จบางขุนพรหม17 พระสมเด็จบางขุนพรหม31 พระหลวงตาพัน และพระหลวงปู่ลำภู
พระคณาจารย์ที่มาประกอบพิธีพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว เป็นต้น
ในปี พ.ศ.2554 ทางวัดได้จัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอมตมหามงคล ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ คือ
เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคสมทบทุน บูรณะปฏิสังขรณ์ เสนาสนะภายในวัดใหม่อมตรส
เพื่อสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และเป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุ สามเณร นักเรียน นักศึกษา
โดยมวลสารที่นำมาเป็นหลักในการจัดสร้าง พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นอมตมหามงคล คือ มวลสารของพระสมเด็จบางขุนพรหม ที่ได้จากการเปิดกรุ เมื่อ ปี 2500 และมวลสารจาก พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง ทุกรุ่นของวัด เช่น พระสมเด็จบางขุนพรหม09 พระสมเด็จบางขุนพรหม17 พระสมเด็จบางขุนพรหม31 หลวงตาพัน และหลวงพ่อลำภู
พระคณาจารย์ที่มานั่งปรกเจริญจิตภาวนาพุทธาภิเษก เช่น หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันฑ์ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน พระอาจารย์อิฏฐ์ วัดจุฬามณี หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงพ่อหล่ำ วัดสามัคคีธรรม เป็นต้น
สินค้า ใน พระสมเด็จบางขุนพรหมรุ่นหลัง (34 ชนิด)
แสดงสินค้าที่ 1-34 จากทั้งหมด 34 ชิ้น
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม